หน่วยงานของรัฐบาลกลางใช้เวลาสี่ปีในการเริ่มต้นใช้งาน Digital Accountability and Transparency Act ดังนั้นจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้โปรแกรมการให้ทุน 2,300 รายการและสำนักงานจัดซื้อจัดจ้าง 3,200 แห่งเพื่อทำแบบเดียวกันOffice of Management and Budget แนะนำ สามขั้นตอนเพื่อช่วยเร่งกระบวนการ: สร้างมาตรฐานข้อมูลต่อไป ใช้เทคโนโลยีการเติมข้อมูลอัตโนมัติ และใช้มาตรฐานเปิดของ IT สำหรับการพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ ที่จำเป็นในระหว่างทาง
คำแนะนำนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานล่าสุดของ OM
เกี่ยวกับ การนำร่องมาตรา 5สองส่วนของพระราชบัญญัติข้อมูลซึ่งครอบคลุมเงินช่วยเหลือของรัฐบาลกลางและสัญญาของรัฐบาลกลาง การนำร่องให้ทุนสิ้นสุดลง แต่ฝ่ายจัดซื้อจะดำเนินต่อไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
“โครงการนำร่องการจัดซื้อจัดจ้างแสดงให้เห็นว่าภาระลดลงและเกิดประสิทธิภาพเมื่อข้อมูลที่ให้ไว้กับรัฐบาลกลางถูกนำมาใช้ซ้ำ” OMB กล่าว “ผลการนำร่องการจัดซื้อยังแสดงให้เห็นว่าการรายงานสามารถปรับปรุงได้เมื่อมาตรฐานเทคโนโลยีเปิด นักบินทดสอบการให้ทุนแสดงให้เห็นว่าเงื่อนไขต่อไปนี้สามารถลดภาระของผู้รับได้: (I) องค์ประกอบข้อมูลการรายงานที่จำเป็นถูกกำหนดไว้ในที่เก็บข้อมูลแบบเปิดส่วนกลาง (2) ข้อมูลที่รายงานจะถูกรวบรวมจากส่วนกลาง (3) ข้อมูลสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยอัตโนมัติ มีประชากรทั่วทั้งรัฐบาล และ (4)
ทรัพยากรที่มีอยู่จะอธิบายข้อกำหนดและกระบวนการทางธุรกิจหากจำเป็น”
ข้อมูลเชิงลึกโดย GDIT: มีเทคโนโลยีหลักหลายอย่าง – ICAM, Mission Partner Environments (MPEs) และวิศวกรรมดิจิทัล – ที่เปิดใช้งาน JADC2 ในตอนที่ 3 ของซีรีส์ 3 ส่วนนี้ ผู้ดำเนินรายการ Tom Temin จะพูดคุยถึงวิธีการที่วิศวกรรมดิจิทัลเป็นกุญแจสำคัญในการปรับปรุงเครือข่าย DoD ให้ทันสมัย
Hudson Hollister ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหารของ Data Coalition กล่าวกับ Federal News Radio ว่าเขาหวังว่าสำนักงานจัดหาทุนและสำนักงานทำสัญญาจะได้รับประโยชน์จากรายงานการใช้จ่ายที่เป็นมาตรฐาน
“มันสำคัญมากสำหรับเราที่ตอนนี้ทำเนียบขาวบอกว่าเราควรมีอนุกรมวิธานที่ครอบคลุมสำหรับการรายงานของผู้รับ” ฮอลลิสเตอร์กล่าว “นี่คือโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการรายงานผู้รับสิทธิ์และการรายงานผู้รับเหมา ซึ่งหมายถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ถูกกว่าสำหรับผู้รับทุนและผู้รับเหมา หมายถึงความโปร่งใสที่ดีขึ้นสำหรับสาธารณะ และหมายถึงการจัดการและการวิเคราะห์ที่ดีขึ้นมากสำหรับรัฐบาล”
อย่างไรก็ตาม Hollister ยอมรับว่าการได้รับทุนสนับสนุนและสำนักงานทำสัญญาบนเรือจะเป็นงานที่หนักเอาการ
“พระราชบัญญัติข้อมูลนั้นยากมาก กรมธนารักษ์ต้องจัดทำDAIMS [DATA Act Information Model Schema] ต้องบังคับให้หน่วยงานทั้งหมดกว่า 100 แห่งรายงานข้อมูลตาม DAIMS” Hollister กล่าว “ความท้าทายเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นในการรายงานผู้รับสิทธิ์และผู้รับเหมา บางคนจะต้องพูดว่า ‘นี่คืออนุกรมวิธานคน คุณต้องปฏิบัติตาม’ และจากนั้นใครบางคนจะต้องบังคับให้สำนักงานโปรแกรมการให้เงินสนับสนุนทั้งหมด 2,300 แห่ง และเจ้าหน้าที่สัญญาจำนวนมากมีสำนักงานจัดหา บังคับให้พวกเขาทั้งหมดปฏิบัติตาม และฉันแน่ใจว่าจะต้องดำเนินการ เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่”
เพิ่มพลัง DAIMS เป็นสองเท่า
กรมอนามัยและบริการมนุษย์จัดการด้านเงินช่วยเหลือของนักบิน ในขณะที่สำนักงานนโยบายการจัดซื้อของรัฐบาลกลางของ OMB เป็นผู้นำด้านการจัดซื้อโดยได้รับความช่วยเหลือจาก 18F ของ General Services Administration และดูข้อมูลบัญชีเงินเดือนที่ผ่านการรับรอง
การรวบรวมข้อมูลสำหรับนักบินเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม รายงานครอบคลุมการรายงานและการวิเคราะห์จนถึงเดือนกรกฎาคม
“วัตถุประสงค์ของการนำร่องการจัดซื้อจัดจ้างคือการสำรวจการลดภาระโดยการสร้างและทดสอบเครื่องมือพิสูจน์แนวคิดแบบออนไลน์” OMB กล่าวในรายงาน “แอปพลิเคชันนี้จะรวมศูนย์การรวบรวมข้อกำหนดการรายงานทั้งหมดภายใต้ Federal Acquisition Regulation (FAR) แทนที่จะกำหนดให้ผู้รับเหมาส่งรายงานไปยังสถานที่ต่างๆ และในรูปแบบต่างๆ ผู้รับเหมาจะรายงานข้อมูลเพียงครั้งเดียวและในสถานที่เดียว เป้าหมายของการนำร่องการให้ทุนคือการหาโอกาสในการสร้างมาตรฐานข้อมูลทั่วไปใหม่ เพื่อสร้างเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรายงาน และจัดหาทรัพยากรสำหรับลดภาระการจัดการของผู้ได้รับรางวัลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ”
ข่าวข้อมูลเปิดล่าสุด
ความจำเป็นในการปฏิรูปในการจัดซื้อของรัฐบาลกลางและ การได้มาซึ่ง การซื้อกิจการ
การวางแผนและติดตั้งระบบเครือข่ายในสถานที่ราชการ ข้อคิดเห็น
credit : ยูฟ่าสล็อต / สล็อตเว็บตรง
